คุณภาพของFood Delivery เจ้าต่างๆ


          ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลกของเราได้เปลี่ยนไปอย่างมาก เนื่องจากมีเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตอย่างมาก แม้แต่การสั่งอาหาร ปัจจุบันเราสามารถสั่งอาหารมารับประทานได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปซื้อเอง ในขณะที่สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในประเทศไทย คงจะไม่มีใครที่อยากออกจากอาคารอยู่แล้ว



          นั่นทำให้ในปัจจุบันมีบริษัทFood Deliveryมากมายได้ถือกำเนิดขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนชาวไทย 




         แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าบริษัทไหนมีคุณภาพที่สุด?ให้บริการได้ไวที่สุด?ดูแลสภาพอาหารได้ดีที่สุด?ราคาคุ้มค่าที่สุด? วันนี้ทางเรามีคำตอบหลังจากที่ได้ทำการทดลองเพื่อหาคำตอบให้แก่ผู้บริโภคเพื่อให้เลือกใช้บริการได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
        
         เราได้เริ่มต้นด้วยการเลือกบริษัทFood Deliveryมา3บริษัทได้แก่ 


Grab Food 




LINE MAN





GET





โดยผู้จัดทำได้ทำการทดลองสั่งอาหารร้านเดียวกัน เมนูเดียวกัน เพื่อตรวจสอบว่าบริษัทใดจะให้บริการได้ไวที่สุด รวมถึงตรวจสอบราคาอาหารและค่าจัดส่ง ผลปรากฏเป็นดังนี้



เมนูแรก เราได้ทำการสั่งชานมไข่มุก Golden Bubble Milk Tea จากร้าน KOI The ที่สาขา MRT จัตุจัก ในช่วงเวลา10.00-11.00น. และเกี๊ยวซ่าจากร้านYAYOI สาขาTesco Lotus จรัญสนิทวงศ์ได้ผลสรุปว่า

LINE MAN



           ผลปรากฏว่า LINE MAN ใช้เวลา29.49นาที ในการส่งชานมไข่มุกจากMRT จัตุจักถึงหอใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และใช้เวลา33.04นาทีในการส่งเกี๊ยวซ่าจาก TescoLotusจรัญสนิทวงศ์ถึง หอใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

Grab Food





              ทางด้านGrab Food ใช้เวลา 30.21นาที ในการส่งชานมไข่มุกจากMRT จัตุจักถึงหอใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และใช้เวลา 36.24นาที ในการส่งเกี๊ยวซ่าจาก TescoLotusจรัญสนิทวงศ์ถึง หอใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ


GET




                 ทางด้าน GET Food ใช้เวลา 58.12 นาที ในการส่งชานมไข่มุกจากMRT จัตุจักถึงหอใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และใช้เวลา 30.16 นาทีในการส่งเกี๊ยวซ่าจาก TescoLotusจรัญสนิทวงศ์ถึง หอใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ



                 จึงสรุปได้ว่า ระยะเวลาในการส่งนั้น LINE MAN ให้บริการได้ไวที่สุด แต่บริษัทอื่นๆก็ไม่ได้ช้ากว่ามากนัก บางครั้งอาจขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร หรือ คิวร้านอาหาร เป็นต้น
             

                  ในส่วนของอัตราค่าบริการนั้น สรุปได้ดังนี้

  • เริ่มต้นที่ 55 บาท คิดเพิ่มกิโลเมตรละ 9 บาท
  • ตอนนี้มีโปร ค่าส่ง 29 บาท ระยะทางไม่เกิน 6.0 กิโลเมตร (เฉพาะร้านที่ติดป้าย ค่าส่ง 29 บาท)


  • เริ่มต้นที่ 10 บาท 1 – 5 กิโลเมตรแรก
  • กิโลเมตรถัดไปคิดกิโลเมตรละ 10 บาท


  • ค่าส่ง 10 บาท ในระยะทางที่กำหนด

             
                จะเห็นได้ว่าค่าบริการของLINE MAN มีค่าบริการส่งมากที่สุด แต่มีก็ด้อยแต่ก็มีข้อดี เพราะถ้าเทียบถึงความหลากหลายของร้านอาหารในแอพลิเคชั่น LINE MAN จึงมีค่ามากที่สุด และสามารถสรุปความน่าใช้ได้ว่า


Grab Food แม้ว่าภาพรวมจะมีราคารวมถูกกว่าแอปอื่นๆ แต่ลองดูรายละเอียดทั้งหมดดีๆ ราคาอาหารจะสูงกว่าแอปอื่นตั้งแต่ 10 – 25 บาทเลยทีเดียว ส่วนที่ทำให้มันถูกกว่าคือราคาค่าส่งที่คิดคงที่เพียง 10 บาทเท่านั้น อย่างไรก็ดีด้วยความที่ Grab Food จะมีโปรโมชั่นลดราคาอาหารบางเมนูบางร้านค้าออกมาเรื่อยๆ จึงอาจทำให้ราคารวมทั้งหมดออกมาแล้วถูกกว่าหรือเทียบเท่ากับแอปอื่นได้
LINE MAN หลายคนเห็นราคารวมแล้วน่าจะมีช็อค เพราะสูงกว่าอีกสองแอปมาก นั่นก็เป็นเพราะค่าจัดส่งที่มีคิดค่าส่งขั้นต่ำ 55 บาท ซึ่งได้ระยะทางเพียง 1 กิโลเมตรแรกเท่านั้น ส่วนกิโลถัดไปคิดที่ 9 บาทต่อกิโล ตามระยะทาง แถมถ้าสั่งในช่วงเวลาพิเศษ LINE MAN ยังมีการบวกค่าจัดส่งเพิ่ม 30-100 บาท ก็จะแพงยิ่งๆขึ้นไปอีก แต่ข้อดีคือราคาจะคิดตามจริงไม่มีบวกเพิ่ม
GET Food เป็นแอปกลางๆ ราคารวมจะไม่ได้แพงหรือถูก เนื่องจากไม่ได้มีโปรโมชั่นลดราคา และมีค่าจัดส่งเริ่มต้นที่ 10 บาท เท่ากับแอป Grab Food ส่วนราคาอาหารก็ตามจริงเท่ากับ LINE MAN ราคารวมจึงน่าจะเป็นที่พอใจของหลายๆ คน โดยเฉพาะถ้าร้านไหนที่ไม่ได้มีโปรโมชั่น เผลอๆ GET Food ก็น่าจะถูกกว่าใช้ Grab Food สั่งเสียอีก ด้วยราคาส่งที่ถูกและราคาสินค้าที่ตรงกับหน้าร้าน



Create By

นายณัฐชนน        มัยยะ                     
นายธนินท์           ศรีสุขทักษิณ
นางสาววรินทร    ยอดมิ่ง
นางสาวชญาณี   นาคเจริญ
นางสาววณิชชา  จันทร์เพ็ญ
ECE








Comments